วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

อนาคตข้าวไทย


ห่วงอนาคตข้าวไทย

ระยะหลังๆ นี้ รู้สึกไม่ค่อยจะดี เมื่อนึกถึงอนาคตของข้าวไทย ซึ่งวันนี้เรายังครองความเป็นหนึ่งในการส่งออกไปยังตลาดโลก

http://www.thairath.co.th/content/edu/317609
  ที่บอกว่ามีความรู้สึกไม่ค่อยจะดี ก็เพราะว่าตอนนี้มีหลายประเทศเหลือเกิน ที่จ้องจะเป็นคู่แข่งในการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ จากเดิมที่มีแต่เฉพาะเวียดนามเท่านั้นที่น่ากลัว แต่ตอนมีทั้งจีน เวียดนาม ตามด้วยอินเดีย และอินโดนีเซีย
 ลำพังแต่เวียดนามก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย เพราะตอนนี้ตลาดข้าวระดับล่างเวียดนามแย่งไปหมดแล้ว อย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือฟิลิปปินส์ เดิมที่เราส่งออก 100% ครับ ตอนนี้เวียดนามครองตลาดข้าวในฟิลิปปินส์เกือบ 100% แล้วเช่นกัน เหลือแต่ตลาดบนเพียงน้อยนิดเท่านั้น
 ปัญหามีอยู่ว่า เรากำลังหลงระเริงกับคำว่า "ข้าวไทยดีที่สุดในโลก" เป็นคำปลอบตัวเอง เพื่อกลบเกลื่อนความล่าช้าในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวนั่นเอง และอีกส่วนหนึ่งก็เพราะเราเป็นคนหูเบา ที่ไปเชื่อองค์กรเอกชน (เอ็นจีโอ) บางองค์กร ที่ดูเหมือนว่า เป็นสาวกทางความคิดของคนต่างชาติที่คอยถ่วงความก้าวหน้าด้านงานวิจัย โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีการตัดแต่งพันธุวิศวกรรม หรือจีเอ็มโอ

 ผมเคยไปดูงานที่สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ หรือ IRRI ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับนักข่าวในเอเชียเราอีกหลายประเทศ จึงทราบว่า ณ วันนี้หลายประเทศได้มีการพัฒนาและทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในระดับแปลงทดลอง อย่างจีน เวียดนาม และอินเดีย ไม่ต้องพูดถึงครับ รัฐบาลของประเทศเหล่านี้อนุญาตให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชจีเอ็มโอในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว
 นี่ละครับ! ปัญหาใหญ่ของตลาดข้าวไทยในอนาคต ลำพังจีนกับเวียดนามใช้พันธุ์ข้าวลูกผสมหรือไฮบริด ก็น่ากลัวพอแล้ว เพราะเขามีผลผลิตถึงไร่ละ 2,000 กก.ครับ ของเราอยู่ที่ 400-600 กก.ต่อไร่เท่านั้น มีบางพื้นที่ที่อยู่ในเขตชลประทานที่อาจได้ผลผลิตข้าวไร่ละ 800 กก. นี่ถ้าไม่พูดถึงข้าวจีเอ็มโอ ซึ่งจะมีผลผลิตอาจสูงกว่านี้ 
 เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ไปฟังการสัมมนาพิเศษ เรื่อง "ก้าวใหม่งานวิจัยข้าว" จัดโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ร่วมกับสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) และกรมการข้าว เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวและการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยข้าว  โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ฟังข้อมูลจาก ดร.พงศ์เทพ อัครธนกุล ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น่าใจหายครับ
 อาจารย์พงศ์เทพบอกว่า ทุกวันนี้บ้านเราซึ่งเป็นประเทศปลูกข้าวมากที่สุด และส่งออกมากที่สุดในโลก แทบจะไม่มีนักวิทยาศาสตร์ด้านข้าวที่จบระดับดอกเตอร์เลย แค่ระดับปริญญาโท จบปีละไม่ถึง 10 คน
 อย่าลืมครับว่า บ้านเราได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับอาเซียน และจีน จึงเชื่อว่าอีกไม่นานข้าวจีเอ็มโอจากจีน และเวียดนามซึ่งมีราคาถูก เพราะเขาลงทุนต่ำ มีผลผลิตสูง ข้าวเหล่านี้จะมาตีตลาดในประเทศไทย
 เราปฏิเสธไม่ได้ครับ เพราะข้อตกลงการค้าเสรีนั้น ตัวเอกอยู่ที่สินค้าเกษตร ฉะนั้นตราบใดที่ไทยยังนำเข้าถั่วเหลืองจากอเมริกา บราซิล และอาร์เจนตินา ซึ่งกว่า 80 % เป็นถั่วเหลืองจีเอ็มโอเข้ามาได้ ข้าวจีเอ็มโอจากจีนและเวียดนามต้องขายในไทยได้เช่นกันครับ
"ดลมนัส  กาเจ"http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=5281934161421484057#editor/src=dashboard

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น